top of page

แนะนำธุรกิจหยอดเหรียญ ธุรกิจ passive income ที่มาแรงในยุคนี้

Updated: May 8, 2024

แนะนำธุรกิจหยอดเหรียญ ธุรกิจ passive income ที่มาแรงในยุคนี้


ในปัจจุบัน การเป็นพนักงานบริษัทหรือมนุษย์เงินเดือน หรือแม้แต่ข้าราชการนั้นก็มีความไม่มั่นคงแล้ว และหากยังมีรายได้ทางเดียวก็ถือว่าเสี่ยงมาก เพราะเราไม่รู้ว่าวันไหนเราจะไม่มีงานทำ ไม่มีเงินเข้ามาอย่างต่อเนื่องเหมือนแต่ก่อน  การหารายได้เสริมจึงเป็นสิ่งสำคัญกับคนในยุคนี้ที่อะไรก็ไม่แน่นอน


การทำธุรกิจไม่ได้ผูกขาดอยู่กับเฉพาะนายทุนรายใหญ่ ตอนนี้โอกาสต่างๆ เปิดให้บุคคลทั่วไปเข้ามาร่วมแข่งขันแล้ว หลายคนใช้แรงกายและเวลาแลกเงินมา และพอได้เงินมาก็เก็บฝากธนาคารไว้ ซึ่งนับเป็นวิธีที่ปลอดภัย แต่นานวันเข้าก็ถูกเงินเฟ้อกินไป เพราะ เงินเฟ้อทำงานมูลค่าเงินลดลงไปตามเวลา ดั้งนั้น ถ้าอยากให้มูลค่าของเงินไม่ลด สิ่งที่สำคัญคือ ต้องให้เงินทำงาน


ree

 

ในการให้เงินทำงานนั้นมีหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนทำร้านอะไรสักอย่างแล้วจ้างคนมาดูแล ส่วนเราก็เข้ามาช่วงระยะเวลาหนึ่ง แต่ธุรกิจนี้มักจะมีปัญหาเรื่องคนบ่อย ไม่ว่าจะเรื่องทำงานไม่เต็มที่, การลางานแบบไม่แจ้งล่วงหน้า และแม้กระทั่งการฉ้อโกงอีก หรือเราอาจจะไปรลงทุนในหุ้น ซึ่งจะดีมากๆ เมื่อศึกษาข้อมูลมาอย่างดี และมีหัวทางเศรษฐศาสตร์อยู่บ้าง  แต่การลงทุนในตลาดหุ้นนั้นก็มีความเสี่ยงอยู่มาก ซึ่งหลายคนก็เข้าตลาดมาในเวลาที่ไม่ดี อาจขาดทุนมากจนยากจะเยียวยา


ree

เราจึงขอแนะนำวิธีการหารายได้เสริม คือ การลงทุนยุคใหม่ที่ช่วยให้เงินทำงานแบบไม่เสี่ยง หรือเรียกว่า passive income ซึ่งก็คือ ธุรกิจหยอดเหรียญนั่นเอง โดยธุรกิจนี้ สิ่งที่เราต้องวิเคราะห์นั้น คือ ทำเลย ซึ่งมันง่ายกว่าการวิเคราะห์หุ้นบริษัทมาก ที่ต้องดูงบการเงินให้เป็นและเทียบการบริหารจัดการทั้งก่อนและหลังปีที่ลงทุน ดังนั้นธุรกิจหยอดเหรียญจึงเป็นที่นิยมกับนักลงทุนยุคใหม่ทั้งวัยรุ่นและวัยเก๋าเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ, ตู้น้ำหยอดเหรียญ, การทำร้านสะดวกซัก หรือแม้กระทั่งร้านล้างรถหยอดเหรียญ

ree

เหตุใดเราจึงแนะนำธุรกิจหยอดเหรียญ?


ตัวผู้เขียนบทความนี้ เมื่อก่อนทำงานเป็นพนักงานบริษัทที่มีรายได้สูง แต่งานกดดัน บางวันรู้สึกไม่อยากอาหาร, ไม่มีความสุขในชีวิต เลยทำให้อยากหาทางหนีทีไล่ไว้ จึงได้ลองลงทุน ก็ได้คิดและเปรียบเทียบหลายธุรกิจ เมื่อคิดครบถ้วนแล้วจึงตัดสินใจลงทุนในธุรกิจหยอดเหรียญ โดยเริ่มต้นจากตู้น้ำหยอดเหรียญ 2 ตู้ แล้วเพิ่มตู้น้ำหยอดเหรียญมากขึ้นเรื่อยๆ เมื่ออยู่ตัวแล้วจึงลองลงเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญด้วย และก็ขยายจนมีตู้น้ำหยอดเหรียญ 80 ตู้และเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ 200 เครื่อง


ทุกวันนี้ลาออกจากงานมาเรียบร้อย และทำงานอย่างมีความสุข มีชีวิตที่ดีที่เลือกเอง จึงอยากให้เพื่อนๆ ลองทำเพื่อให้มีโอกาสที่จะเปลี่ยนแปลงไปทำสิ่งที่ชอบได้ และจากประสบการณ์ตรงในการทำธุรกิจหยอดเหรียญนับ 10 ปี ขอสรุปมีข้อดีมาให้เพื่อนๆ ดู ดังนี้


1. ทำรายได้ให้กับเราได้อย่างต่อเนื่องตลอด 24 ชั่วโมง เมื่อวางตู้น้ำหยอดเหรียญและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญแล้ว พวกเค้าจะทำงานเอง ไม่ต้องมานั่งเปิดร้าน/ปิดร้าน ไม่ต้องคอยเฝ้าด้วย


2. ไม่ต้องจ้างคนมาคอยดูแล ถ้าตัดเรื่องคนไปได้ เราจะลดปัญหาปวดลงไปได้เลย 90% และธุรกิจหยอดเหรียญของเราจะขยายหรือเรียกว่า scale ไปได้แทบไม่มีที่สิ้นสุดเลย


3. ไม่ต้องห่วงเรื่องความซื่อสัตย์ของลูกจ้าง อุปกรณ์หยอดเหรียญ เช่น ตู้น้ำหยอดเหรียญและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ ปัจจุบันสามารถตรวจสอบยอดเงินผ่านระบบได้แล้ว ใครโกงเรา เรารู้ทันที


4. อุปกรณ์หยอดเหรียญต่างๆ ใช้งานง่ายและดูแลรักษาง่าย แต่เรื่องของความทนทาน เราต้องเลือกให้เป็น ซึ่งเราควรเลือกซื้อจากร้านที่เชื่อถือได้และสามารถตรวจสอบหรือเช็คประวัติได้ด้วย


โดยหลักการเลือกตู้น้ำหยอดเหรียญและเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ สามารถดูได้ตามนี้ครับ


ตู้น้ำหยอดเหรียญ


เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ


ree

 แล้วธุรกิจหยอดเหรียญนั้นประกอบไปด้วยอะไรบ้าง?

1. ธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญ

2. ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และ/หรือ ร้านสะดวกซัก

3. ธุรกิจเครื่องล้างรถหยอดเหรียญ และ/หรือ ร้านสะดวกล้าง

4. ธุรกิจตู้กาแฟหยอดเหรียญ


เรามาเริ่มดูธุรกิจแรกเลยกันเลย


1. ธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญ

ตู้น้ำหยอดเหรียญ คือ อุปกรณ์ที่รับน้ำประปามากรองให้กลายเป็นน้ำดื่มและขายให้ลูกค้าในราคาประมาณ ลิตรละ 1 บาท ธุรกิจนี้เป็นธุรกิจที่เรียบง่าย คือ แค่ดูแลเครื่องกรองน้ำให้ดี เช่น การเปลี่ยนไส้กรองเป็นประจำ, การตรวจสอบการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ เช่น ทดลองใช้ผลิตและจ่ายน้ำ อีกทั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าหลักมีขนาดเล็กเท่ากับมอเตอร์พัดลม การดูแลรักษาจึงทำได้ง่าย และความถุี่ที่จะเสียหายต่ำมาก ธุรกิจตู้น้ำหยอดเหรียญจึงเป็นหนึ่งในแหล่งรายได้ที่มั่นคงและต่อเนื่อง ซึ่งสร้างความมั่งคั่งให้กับเจ้าของมามากแล้ว เห็นได้จากจำนวนตู้ที่มีอยู่อย่างแพร่หลายนั่นเอง  


อัตรากำไร

การคิดกำไร คือ ราคาขายน้ำ - ค่าใช้จ่าย ซึ่งมี ดังนี้


1) ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำประปาและไฟฟ้า) หากเช่าพื้นที่ตามอาคารชุด หรือ อพาร์ทเมนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 15% ของรายได้

แต่หากเช่าพื้นที่ตามชุมชน หรือ ผู้ประกอบการรายย่อย จะมีค่าใช้จ่ายจะลดลงเหลือประมาณ 10% ของรายได้เพราะสถานที่เหล่านี้ไม่มีการเรียกเก็บเพิ่มเหมือนอาคารชุด


2) ค่าไส้กรอง เป็นค่าใช้จ่ายหลักของการผลิตน้ำ จะคิดอายุจากปริมาณน้ำที่ผ่าน คือ น้ำผ่านมาก ก็จะอายุสั้นลง ดังนั้น จึงสามารถคิดค่าไส้กรองเป็น % เทียบรายได้ได้เลย คือ ประมาณ 10% ของรายได้


3) ค่าซ่อมบำรุง เป็นค่าใช้จ่ายโดยอ้อม คือ ในแต่ละเครื่องมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายได้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปกติจะอยู่ที่ 10% ของรายได้ทั้งหมด


4) ค่าเช่าพื้นที่ ประมาณ 15 - 30% ขึ้นอยู่กับแต่ละที่


หมายเหตุ: คิดรายได้จากการขายน้ำที่ลิตรละ 1 บาท


จากรายการดังกล่าว


หากไม่ได้เช่าพื้นที่ (เป็นบ้านหรือร้านของเรา) กำไรจะอยู่ประมาณ  70% ของรายได้


หากเช่าพื้นที่ในอัตรา 25%  กำไรจะอยู่ประมาณ  45% ของรายได้


จะเห็นว่าตู้น้ำนั้นมีค่าใช้จ่ายเรื่องไส้กรองเพิ่มมาจากอถุปกรณ์ชนิดอื่นด้วย แต่ส่วนที่ลดลงนั้นคือ ค่าซ่อมบำรุงเพราะตู้น้ำหยอดเหรียญเป็นอุปกรณ์ที่ไม่ค่อยเสีย


2. เครื่องซักผ้าและเครื่องอบผ้าหยอดเหรียญ

เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญในบทความนี้จะกล่าวถึงเครื่องโฮมยูสก่อน คือ เป็นการนำเครื่องซักผ้าที่ใช้ตามบ้านมาติดกล่องหยอดเหรียญเป็นเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญไว้ให้บริการ ซึ่งเครื่องซักผ้าโฮมยูสนั้นมีข้อดีเรื่องการดูแลรักษาง่ายและมีราคาถูกกว่าเครื่องซักผ้าเชิงพาณิชย์และเครื่องซักผ้าอุตสาหกรรม จึงมีโอกาสที่จะคืนทุนได้เร็วกว่ามาก การทำงานของเครื่อง ก็จะเป็นการหยอดเหรียญแล้วกล่องก็สั่งให้เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญทำงานในหมวดอัตโนมัติ เมื่อครบรอบการทำงานก็จะจบการทำงาน ไม่สามารถกดปุ่มปรับอะไรได้


 อัตรากำไร

 การคิดกำไร คือ ราคาค่าซักผ้า - ค่าใช้จ่าย ซึ่งมี ดังนี้

1) ค่าสาธารณูปโภค (ค่าน้ำประปาและไฟฟ้า) หากเช่าพื้นที่ตามอาคารชุด หรือ อพาร์ทเมนต์ จะอยู่ที่ประมาณ 30% ของรายได้

แต่หากเช่าพื้นที่ตามชุมชน หรือ ผู้ประกอบการรายย่อย จะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 20% ของรายได้


2) ค่าซ่อมบำรุง เป็นค่าใช้จ่ายโดยอ้อม คือ ในแต่ละเครื่องมีโอกาสที่จะเกิดความเสียหายได้ต่างกัน ขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย โดยปกติจะอยู่ที่ 10% ของรายได้ทั้งหมด


3) ค่าเช่าพื้นที่ ประมาณ 15 - 40% ขึ้นอยู่กับแต่ละที่


จากรายการดังกล่าว


หากไม่ได้เช่าพื้นที่  กำไรจะอยู่ประมาณ  70% ของรายได้


หากเช่าพื้นที่ในอัตรา 25%  กำไรจะอยู่ประมาณ  45% ของรายได้


จากการคำนวณดังกล่าว จะเห็นว่าธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้นทำกำไรดี และได้เงินเป็นกอบเป็นกำมากกว่าตู้น้ำหยอดเหรียญ จึงคืนทุนเร็วกว่า แต่ก็อาจจะมีปัญหาการซ่อมที่บ่อยกว่าได้เช่นกัน


นอกจากนี้ หากเราจะเลือกซื้อเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญนั้น เราควรต้องเปรียบเทียบข้อดีข้อเสียนอกเหนือจากเรื่องราคาด้วย เราขอแนะนำบทความนี้ในพันทิปครับ "เครื่องซักผ้าราคาถูก คุ้มค่าจริงหรือ?!"


ถ้าเพื่อนๆ อยากทำร้านสะดวกซัก ขอให้ดูบทความนี้เพื่อเริ่มต้นความเข้าใจที่ถูกต้องและจัดการกับความคาดหวังได้ครับ



นอกจากนี้เราอาจดูปัจจัยเชิงบวกที่เป็นเหตุผลว่าทำไมหลายคนจึงสนใจลงทุนร้านสะดวกซักมากขึ้นจากลิงค์นี้



แต่อย่างไรก็ตามก็อยากให้เพื่อนๆ ได้มองรอบๆ ด้านและดูข้อเตือนใจนักลงทุนไว้สักเล็กน้อยตามลิงค์นี้ครับ



จากที่วิเคราะห์ จะเห็นว่าผลกำไรค่อนข้างดีเลย เมื่อเทียบกับธุรกิจอื่น แต่อย่างไรก็ตาม ทุกธุรกิจย่อมมีความเสี่ยง ธุรกิจตู้น้ำดื่มหยอดเหรียญ, ธุรกิจเครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ และธุรกิจหยอดเหรียญอื่นๆ นั้นก็มีควา่มเสี่ยง เช่นกัน ดังนี้


1. ความคุ้มค่าทางธุรกิจ


2. ความปลอดภัยต่อการโจรกรรม


3. ความทนทานและการดูแลรักษาจากผู้ผลิตอย่างสม่ำเสมอ


4. ความสะอาดได้มาตรฐานที่ อย.ควบคุมอยู่


ถ้าเพื่อนๆ ศึกษาข้อมูลธุรกิจหยอดเหรียญเรียบร้อยแล้ว ต้องการลงทุน คลิ๊กด้านล่างนี้เลยครับ


ดูรายละเอียดสินค้าอุปกรณ์หยอดเหรียญคุณภาพดีได้ที่นี่

ตู้น้ำหยอดเหรียญ

เครื่องซักผ้าหยอดเหรียญ

 

Comments


bottom of page